สิ่งที่เชื่อมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้า คือ "ความเชื่อ ความศรัทธา" วันนี้ ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น จงเชื่อและศรัทธาในพระเจ้าเสมอว่าพระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งทุกๆคนที่เชื่อและศรัทธาในพระองค์แน่นอน (ฉธบ.31:6)
วันนี้ ... ได้นั่งลงทบทวนกับตนเองว่า...;
- ทำไมคริสเตียนคนที่รักพระเจ้า ... จึงยังพบกับความทุกข์ยากลำบากอยู่?
- ทำไมบางคนยังเจ็บป่วยอยู่ แม้จะอธิษฐานแล้วก็ไม่ได้รับการรักษาจากพระเจ้าเลย?
- ทำไมเรายังเจ่อะเจอปัญหาอยู่เรื่อยๆ ทั้งที่ๆเรามีพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่สูงสุดอยู่กับตัวเอง?
- ทำไมเรายังถูกข่มเหง ถูกต่อต้าน?
- อธิษฐานก็แล้ว ทำไมพระเจ้าไม่เห็นตอบเลย?
- ทำไมคริสเตียนบางคนยังมีพฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับชาวโลก พระเจ้าไม่ทรงทำอะไรหรือ?
และ ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม.........!!!!!"
สาธุการพระเจ้าพระบิดานิรันดร์องค์สันติราช พระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวงในโลกนี้ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์สูงสุดเพียงพระองค์เดียว ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ก็เหลือจะพรรณนาได้จริงๆ (1ทธ.6:15-16)
ความคิดและพระปัญญาของพระเจ้าก็สูงยิ่งกว่าฟ้าสวรรค์ การที่เราจะสามารถเข้าใจทั้งหมดได้นั้นยากจริงๆ ยิ่งคิดยิ่ง "ไม่เข้าใจ" เลยจริงๆ
"แต่ข้าพเจ้าเล่า เท้าของข้าพเจ้าเกือบสะดุด ย่างเท้าของข้าพเจ้าจวนพลาดเต็มทีแล้ว เพราะข้าพเจ้าริษยาคนจองหอง เมื่อข้าพเจ้าเห็นความสมบูรณ์พูนสุขของคนอธรรม ... ข้าพเจ้าได้รักษาใจให้สะอาด และชำระมือด้วยความบริสุทธิ์ก็เปล่าประโยชน์แน่ทีเดียว เพราะข้าพเจ้ารับภัยอยู่วันแล้ววันเล่า และถูกตีสอนอยู่ทุกเช้า" (สดด.73:1-2, 13-14)
ฮาๆๆๆๆๆ+ สรรเสริญพระเจ้า เมื่อได้นั่งลงอธิษฐานถามพระเจ้าว่า "ทำไม ทำไม ทำไม ...???" พระเจ้าทรงตรัสในจิตใจลึกๆว่า "จงเชื่อ" เท่านั้น
ขอบพระคุณพระเจ้าเมื่อได้นั่งลงภาวนาพระคำ ฮีบรู บทที่ 11 สรรเสริญพระเจ้า ผมต้องกลับใจใหม่ต้อง "เชื่อ" เท่านั้นจริงๆ พระเจ้าช่างยิ่งใหญ่และทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงได้เสมอจริงๆ นี่ละผมเลยเรียกว่า "ปาฏิหารย์ที่เหนือกว่าทั้งมหัศจรรย์และอัศจรรย์ของโลกนี้จริงๆ"
หากไม่เชื่อ เราก็จะไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงสัญญาว่า "หากไม่เชื่อก็จะไม่ได้เห็น" (ฮบ.11:6, ยน.11:40) สวนทางกับโลกที่บอกเราว่า "เห็นแล้วจึงเชื่อ" นี่ละ...พระเจ้าจึงทรงเตือนเราว่า อย่าให้เราทำอย่างโลกนี้ทำ แต่จงแสวงหาที่จะรู้จักพระเจ้าผ่านความเชื่อ แล้วเราจึงจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ (มธ.6:32-33)
ความเชื่อ เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ นอกจากจะเชื่อมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้าแล้วยังทำให้เรามีความหวังใจที่จะเดินไปกับพระองค์ ทำให้เราสามารถอดทนต่อทุกสิ่งได้ ทำให้เรามีกำลังที่จะทำสิ่งต่างๆได้ (ฮบ.11:32-35)
นี่ละความเชื่อจึงเปรียบเสมือนโล่ และเกราะป้องกันอก [หัวใจ] ที่จะดับลูกศรเพลิงแห่งความกลัว ความสงสัยของมารซาตานได้จริงๆ (อฟ.6:16, 1ธส.5:8)
สรุป...คำตอบที่พระเจ้าทรงประทานให้
1.ปัญหาใดๆ โรคร้ายใดๆ หรือแม้แต่มารซาตานไม่ใหญ่เกินพอจะแตะต้องหรือทำอันตรายอะไรผู้เชื่อได้ แต่มันสามารถทำให้เรา "สงสัย และเลิกเชื่อวางใจในพระเจ้าได้" (ปฐก.3:4-6) เพราะ "ผู้ใดแตะต้องเจ้า ก็ได้แตะต้องแก้วพระเนตรของพระองค์" (ศคย.2:8)
2.เมื่อเราเชื่ออย่างเดียวไม่พอ ต้องพิสูจน์ความเชื่อผ่านการกระทำของเรา (ยก.2:22) ไม่เพียงแค่การอธิษฐานด้วยความเชื่อเท่านั้น แต่ต้องอดทนและรอคอยจนกว่าจะได้รับคำตอบตามที่ได้อธิษฐาน (ฮบ.10:35-39)
3.ไม่ว่าคำตอบที่ได้จะดีหรือไม่? ... จะถูกใจเราหรือไม่? จงขอบพระคุณเสมอ เพราะพระเจ้าแม้จะรักเรามากเพียงใด พระเจ้าทรงใส่พระทัยเราแต่จะไม่ทรงตามใจเราเสียทุกเรื่อง พระองค์อาจจะทรงยอมให้เราเสียใจในวันนี้มากกว่ายอมให้เราต้องเสียคนในวันข้างหน้า ... และเชื่อว่า "สิ่งที่ดีกว่า" กำลังมาแทนสิ่งที่เราคิดว่าดี! (1ธส.5:18)
4.ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น จงตั้งสติ นิ่งสงบและอธิษฐาน แล้วจงเชื่อเท่านั้น นึกถึงหลักการ "ความรัก" ที่ยิ่งใหญ่ (ยรม.31:3)
4.1.พระเจ้ารักเราที่สุด (ฮชย.11:8)
4.2.เมื่อไม่ได้อะไรดั่งใจ จงกลับไปดูข้อ 4.1.
4.3.เมื่อเจอปัญหา หรืออุปสรรค จงกลับไปดูข้อ 4.1.
4.4.เมื่อพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐาน จงกลับไปดูข้อ 4.1.
4.5.เมื่อต้องสูญเสียบางคน หรือบางสิ่งที่เรารักไป จงกลับไปดูข้อ 4.1.
{ใคร่ครวญ อิสยาห์ 48:9-19}
5.คำอธิษฐานเป็นของเรา แต่คำตอบทุกสิ่งมาจากพระเจ้า ให้ทุกอย่างแล้วแต่พระเจ้าจะทรงพระกรุณา เพราะเราเป็นทาสของพระองค์ อย่าบังคับพระองค์ด้วยคำอธิษฐานของเรา อย่าจำกัดพระองค์ด้วยความคิดที่จำกัดของเราเอง (อสย.55:8-9, มก.14:36)
6.ที่พระเจ้าไม่ตอบไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงทำไม่ได้ แต่ ... พระองค์ทรงรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังร้องทูลขอนั้นมันเล็กน้อย ไม่เหมาะสมกับเราเลย (อฟ.3:20)
"แม้คนเหล่านี้ทุกคนได้รับการรับรองเพราะความเชื่อ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้ เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ประเสริฐยิ่งกว่านั้นไว้สำหรับพวกเรา เพื่อพวกเขาจะถึงความสมบูรณ์ด้วยกันกับพวกเรา...แผ่นดินโลกไม่คู่ควรกับคนเช่นนั้นเลย" (ฮบ.11:39-40)
7.จงเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีสิ่งที่ดีกว่าและยิ่งใหญ่กว่าเตรียมไว้รอเราเสมอ สิ่งที่เราคิดไม่ถึง สิ่งที่ตาเราไม่เคยเห็น สิ่งที่หูของเราไม่เคยได้ยิน คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมให้สำหรับทุกคนที่รักพระนามของพระองค์มิใช่หรอ? (1คร.2:9)
ฉะนั้น...จงเชื่อเท่านั้น จงเชื่อมใจของเรากับพระเจ้าให้เป็นหนึ่งเดียวกันผ่านทางความเชื่อ อย่าหวั่นไหว ... พระหัตถ์ของพระเจ้าไม่ได้สั้นเกินกว่าที่จะช่วยให้เรารอดไม่ได้ และหูของพระองค์ไม่เคยตึงที่จะไม่ได้ยินทุกคำร้องทูลของเรา (กดว.11:23, อสย.59:1) จงเชื่อ เชื่อ เชื่อ เชื่อ เพราะพระเจ้าทรงทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่งจริงๆ (มก.11:22-24)
แม้วันนี้เราไม่ได้รับคำตอบใดๆจากพระเจ้า ก็จงเชื่อและขอบพระคุณพระเจ้าแล้วเดินตามพระองค์ต่อไป แม้ไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการก็ไม่ได้หมายความว่า "พระเจ้าจะทรงทอดทิ้งเราแล้ว" ไม่เลย ... แต่พระองค์จะทรงนำเราให้เดินต่อไปในแผนการที่แสนสุดวิเศษของพระองค์ที่เต็มด้วยสวัสดิภาพไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ (ยรม.29:11) พระเจ้าทรงรักเราและจะไม่ทอดทิ้งเรา (มธ.28:20)
แม้อาจจะมีการสูญเสียบางคน หรือบางสิ่งไป เพราะพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐาน เช่น ดาวิด (2ซมอ.12:22-23) แต่เดี๋ยวเราก็จะเจอเค้าอีกครั้งหนึ่งในแผ่นดินของพระเจ้าแน่นอน (1ธส.4:13-18)
จงขอบพระคุณแทนการบ่นดีกว่านะครับ!
เอเมน
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา