เมื่อปัญหามารุมเร้า เมื่อพายุโหมกระหน่ำพัดมาอย่างน่ากลัว มองไปทางใดไม่เจอทางออก หรือทางที่เป็นไปได้ที่จะรอดชีวิตได้เลย ... "ใจของข้าพระองค์ตรอมตรมอยู่ภายใน และความสยดสยองของความตายโถมทับข้าพระองค์ ความกลัวและความสะทกสะท้านมาเหนือข้าพระองค์ และความหวาดกลัวก็ครอบงำข้าพระองค์" (สดด.55:4-5)
ลูกทำได้แค่นี้เองจริงๆหรอ? คือ สาธุการพระเจ้า ขอบพระคุณพระเจ้า และสรรเสริญพระเจ้า (โยบ 1:21)
แต่เมื่อทบทวนชีวิต พระคุณพระเจ้ามีมากพอจริงๆ เพราะความรักมั่นคงของพระเจ้าดำรงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ (พคค.3:20-24)
พระเจ้าไม่ได้ทรงช่วยกู้ให้รอดเพราะกำลัง หรือสติปัญญาของเราเอง หรือด้วยคนมั่งมี หรือด้วยคนที่แข็งแรง แต่พระหัตถ์พระเจ้าทรงช่วยกู้เพราะความรักมั่นคงของพระเจ้าดำรงอยู่กับเราตลอดไปเป็นนิตย์เสมอ (1ซมอ.14:6, 17:45-47, 2พศด.20:15-17)
ตอนนี้ แม้การช่วยกู้จะยังมาไม่ถึงทันใจของเรา แต่พระเจ้าทรงยืนยันกับเราว่า "เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า และจะทรงมาทันเวลาแน่นอน" (กดว.11:23)
เมื่อเราเริ่มสับสน ท้อแท้ และความเหน็ดเหนื่อยเข้ามาเกาะกุมหัวใจของเรา เราก็ได้เผลอทำบาปต่อพระองค์นั่นคือ ผมกำลังเลิกไว้วางใจในพระเจ้า (มธ.8:24-26) ... !
คำอธิษฐาน ;
"ข้าแต่พระเจ้าโปรดทรงขนาบข้าพระองค์ และบังคับข้าพระองค์ให้เท้าของข้าพระองค์กลับมาสู่ลู่วิ่งชีวิตในเส้นทางแห่งการเชื่อฟังต่อไป โปรดยื่นพระหัตถ์จับหน้าข้าพระองค์ให้ดวงตาจับจ้องที่พระพักตร์พระบิดาผู้ทรงเต็มเปี่ยมด้วยความรัก และความเมตตาอย่างมั่นคงนิรันดร์ต่อข้าพระองค์ตลอดไป เพื่อที่เท้าของข้าพระองค์จะไม่ลื่นไถลล้มลงอย่างเจ็บปวด และเพื่อที่จิตใจของข้าพระองค์จะไม่หวั่นไหวเต็มไปด้วยความกลัวอีกต่อไป...พระเจ้า (สดด.55:16-19, 73:26, 80:17-18)
ยิ่งข้าพระองค์อ่อนแอมากเท่าไร ข้าแต่พระเจ้าขอทรงเพิ่มเติมความรัก และสันติสุขของพระองค์ให้หลั่งไหลเข้ามาสู่จิตใจของข้าพระองค์มากขึ้นเท่านั้น โปรดให้ริมฝีปากของข้าพระองค์ที่จะกล่าวคำขอบพระคุณแทนการบ่นด้วยเถิด (สดด.42:6-8, ฟป.4:6-7, 1ธส.5:18)
ยิ่งทุกข์เท่าไร ขอให้ข้าพระองค์ยิ่งกลับรู้สึกและมั่นคงในความรักที่มีต่อพระองค์ให้มากยิ่งๆขึ้นด้วยเถิด ให้รักพระเจ้ามากยิ่งกว่าเมื่อวานนี้ เพราะโดยความรักนั้นข้าพระองค์จะสามารถยืนอย่างนิ่งสงบได้ เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงยืนอยู่เคียงข้างข้าพระองค์ ณ ตรงจุดนั้นที่ข้าพระองค์กำลังยืนเผชิญอยู่ แล้วด้วยอำนาจแห่งความรักนี้...จะยึดข้าพระองค์ไว้ และพระคุณพระเจ้าจะล้อมข้าพระองค์ไว้ทุกด้าน แล้วข้าพระองค์จะกางปีกบินทะยานขึ้นไปดั่งนกอินทรีสู่พระบิดาที่ทรงรักและห่วงใยข้าพระองค์เสมอ แล้วข้าพระองค์จะได้รับการเสริมกำลังใหม่ เพื่อข้าพระองค์จะเดินแล้วไม่อ่อนเปลี้ย ข้าพระองค์จะวิ่งแล้วจะไม่เหน็ดเหนือยเลย ... เพราะข้าพระองค์เลือกจะซ่อนตัวในพระเจ้าที่รักข้าพระองค์มากที่สุดแล้ว เอเมน" (สดด.84:1-7, 89:1-2, 33, อสย.40:30-31, ยรม.17:14, 31:3)
เช่นที่โมเสสอธิษฐานว่า ;
"ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอิ่มความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้ร้องเพลงด้วยความชื่นบานและยินดีตลอดเวลาของพวกข้าพระองค์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายยินดีให้มากวันเท่ากับที่พระองค์ได้ทรงให้พวกข้าพระองค์ทุกข์ยากนั้น และให้มากปีเท่ากับที่พวกข้าพระองค์ได้ประสบสิ่งร้าย" (สดด.90:14-15)
แล้วเราจะกล่าวอย่างดาวิดว่า ;
"สาธุการแด่พระเจ้า เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงปฏิเสธคำอธิษฐานของข้าพเจ้า และไม่ทรงเอาความรักมั่นคงของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า" (สดด.16:20)
"เพราะพระองค์ทรงจุดตะเกียงของข้าพระองค์ พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงทำความมืดของข้าพระองค์ให้สว่าง" (สดด.18:28)
ความหวังที่อยู่ในพระเจ้า ... จะไม่จบลงที่ความอับอาย
ความเชื่อที่อยู่ในพระเจ้า ... จะไม่จบลงที่ความตาย
ความรักที่อยู่ในพระเจ้า ... จะไม่จบลงที่ความเจ็บปวด
แต่จะเป็นเกียรติ ชื่อเสียงดี ความมั่งคั่ง และชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยสันติสุข คือ ผู้ที่เอาจิตใจอยู่ในพระเจ้า (อสย.54:4-17, 61:7)
แล้ววันนี้ ... จิตใจของเราอยู่ที่ใด หรืออยู่ที่ใคร?
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา