"แต่ท่านไม่รู้เรื่องของวันพรุ่งนี้ ชีวิตของพวกท่านเป็นเหมือนอะไร? ก็เป็นเหมือนหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็จางไป" (ยก.4:14)
1 ปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้ว่า
- ไม่มีอะไรอยู่กับเราเสมอ และไม่มีใครอยู่กับเราตลอดไป
- สิ่งที่เราคิดว่า 'แน่นอน' แต่ผลลัพธ์กลับไม่ใช่
- ทุกสิ่งในโลกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แม้แต่จิตใจเราเอง
คนที่เคยรัก เคยเรียกเราว่าอาจารย์ มาวันนี้เปลี่ยนไป เหลือแค่ 'คนเคยรู้จัก'
คนบางคนผ่านเข้ามาเป็น 'บทเรียน' ให้จดจำ
จงเรียนรู้ให้มากว่า
- คนที่รักเรา คือ 'ของขวัญ'
- คนที่เรารัก คือ 'ยาชูกำลังใจ'
- คนที่ชังเรา คือ 'เครื่องมือ' ที่สร้างเรา
- คนที่เราชัง คือ 'เครื่องเอ็กซเรย์' นิสัยเราแท้จริงเช่นไร?
เมื่อมีสิ่งดีให้ 'ชื่นชม' เมื่อมีสิ่งร้ายให้ 'พินิจพิจารณา' (ปญจ.7:14) ไม่สำคัญว่าอะไรจะเกิด แต่สำคัญว่าเราจะรับมืออย่างไร? พระคำสั่งให้เรา "ขอบพระคุณ" ทุกกรณี เพราะ
- เราวางใจ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นจะก่อเกิดผลดีแก่เรา (รม.8:28)
- เราเชื่อใจ เราไม่เผชิญสิ่งใดเพียงลำพังแต่ โดยพระองค์จะทรงทำให้เป็นไปได้ทั้งสิ้นเอง (ฉธบ.31:6, 1พศด.28:20, ฟป.4:13)
- เราแน่ใจ "ผลลัพธ์ทั้งสิ้น" อยู่ในพระหัตถ์พระเจ้า (สภษ.16:33)
- เราหวังใจ พระเจ้ามีแผนงานที่ดีสำหรับเรา เพื่อสวัสดิภาพมิใช่เพื่อทุกขภาพ (ยรม.29:11)
คริสเตียนสิ่งเดียวที่ต้องเชื่อเสมอ คือ "พระเจ้าทรงรักเรา" (ยรม.31:3) นี้เป็นรากฐานชีวิต หากเมื่อไรรากฐานนี้สั่นคลอนชีวิตก็อันตราย
"ถ้ารากฐานถูกทำลายเสียแล้ว คนชอบธรรมจะทำอะไรได้?" (สดด.11:3)
หากไม่เชื่อ "พระเจ้ารัก" เราก็จะหวั่นไหวต่อสถานการณ์ง่ายๆ เพราะโดยทั่วไปแล้วเราจะมีความมั่นใจในคนๆหนึ่งเพราะเราแน่ใจว่า 'เขารักเรา' เพราะคนรักกันไม่มีวันทิ้งกัน เมื่อเราเชื่อพระเจ้าทรงรัก ก็แสดงว่าเรามั่นใจ "พระเจ้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเรา" (ฮชย.11:8-9, รม.8:32) เพราะความรักของพระเจ้าแน่นอนและเป็นถาวรนิรันดร์ (สดด.89:33, อสย.54:10)
ไม่จำเป็นต้องน่ารักมาก หรือดีกว่าใครๆ หรือรับใช้อะไรแค่ไหน เพราะความสำเร็จที่เราทำได้ไม่ใช่เครื่องวัดว่า 'ทรงรักเรามากขึ้น' เพราะสำหรับพระองค์แล้ว "ทรงรักแม้ว่าเราจะเป็นอย่างไร?" ต่างหากละ!
แต่ที่เรารับใช้มากขึ้น ทำตัวน่ารักกว่าเดิม หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ที่ดีขึ้น หรืออดทนกับบางสิ่งมากขึ้น นั้นเพราะ 'พลังแห่งรัก' ที่คอยขับเคลื่อนอยู่ภายในเรา ทำให้เรายินดีที่จะทำและพร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่ง ความรักได้เปลี่ยนแปลงเราให้มี "จิตใจเข้มแข็งและกล้าหาญขึ้น" (ยน.21:17-19) เพราะ "ความรักรุนแรงอย่างความตาย และร้อนแรงกว่าประกายไฟ" (พซม.8:6)
เราเปลี่ยนแปลงได้เพราะรัก แต่พระเจ้าทรงรักก่อนเรารู้จักพระองค์ (1ยน.4:10) แค่รักให้มากกว่าเดิมอะไรๆก็ทำได้ทั้งสิ้น อย่าลืมพระเยซูตรัสว่า "หากเรารักพระองค์ เราก็สามารถจะเชื่อฟังพระเจ้าได้ทุกเรื่อง" (ยน.14:23) เพราะความรักจะทำลาย 'ทุกข้ออ้าง' ของเราให้เหลือเพียง 'เหตุผลข้อเดียว' คือ "เพราะรักจึงยอมทุกอย่าง" ดังเช่น พระเยซูทรงเป็นอย่างไรละ ... ความรักขจัดทุกความกลัวหมดไป (1ยน.4:18) ทำให้ไม่ทรงกลัวความตายบนไม้กางเขนยังไงละ!?
ฉะนั้น "พระพรที่ดีที่สุด" สำหรับเรา คือ "พระเยซูคริสต์" ที่พระเจ้าประทานให้เรา (ยน.3:16) และ "ของขวัญที่ดีที่สุด" ที่เราควรมอบให้พระองค์นั้นไม่ใช่สิ่งของหรืออะไรๆ หากแต่คือ "ความรัก" ที่เราจะมีต่อพระเจ้าให้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างไรละ รักที่มากกว่ารักตัวเอง แล้วเราจะรู้เองว่า "จะมีชีวิตเพื่อพระคริสต์ในแต่ละวันได้อย่างไร?" (อฟ.3:16-19, ฟป.1:19-26)
รักพระเจ้าทุกอย่างจะจบลงด้วยดีแน่นอน!
PS. เนตรศักดิ์ ใสรังกา