"จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่า เราคือพระเจ้า เราเป็นที่ยกย่องท่ามกลางบรรดาประชาชาติ เราเป็นที่ยกย่องในแผ่นดินโลก" (สดด.46:10)
เมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากจะเข้าใจ เลวร้าย ยากจะอธิบายให้ใครๆเข้าใจเราได้ น้ำตาก็ไหล จงขอบพระคุณและขอบพระคุณ แทนการบ่น แทนการพยายามจะเรียกร้องความเห็นใจ หรือความยุติธรรมใดๆจากมนุษย์ แต่จงร้องเรียกพระเจ้า ทำจิตใจของเราให้เข้มแข็งไว้ เพราะโดยพระหัตถ์พระเจ้าที่มองไม่เห็นนั้น พระองค์จะทรงนำเราให้ผ่านพ้นสถานการณ์นั้นๆ (ฉธบ.31:6) เฉกเช่น โมเสส ที่ร้องบอกชนชาติอิสราเอลที่เต็มไปด้วยความกลัว และความสิ้นหวังที่จะรอดพ้นจากวิกฤตปัญหาที่ใหญ่นี้ได้ว่า... ;
"โมเสสกล่าวกับประชากรว่า 'อย่ากลัวเลย จงยืนนิ่งอยู่ คอยดูความรอดจากพระยาห์เวห์ ซึ่งทรงทำเพื่อพวกท่านในวันนี้ ... พระยาห์เวห์จะทรงรบแทนท่านหลาย พวกท่านจงสงบเถิด'" (อพย.14:13-14)
ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เลวร้าย มันเป็นการยากจริงๆที่จิตใจของเราจะสงบได้ เวลาก็ไม่หยุดนิ่ง ยิ่งใกล้จะหมดเวลาเท่าไร จิตใจของเราก็ยิ่งรุกรี้รุกรนมากขึ้น จนลืมทุกสิ่ง ในหัวสมองคิดแต่ว่า "ทำไงดี...ตายแน่ๆ?!"
หากไม่มีเหตุการณ์ที่เลวร้าย เราจะได้รับประสบการณ์ในความอัศจรรย์ของพระเจ้าได้อย่างไร? เราจะมีประสบการณ์ได้เห็นพระเจ้าทรงแหวกทะเลแดงเพื่อให้เราเดินไปสู่อีกฝากฝั่งหนึ่งเหมือนชนชาติอิสราเอลได้อย่างไร...?
แต่พระเจ้าทรงเป็นความอุปถัมภ์ เป็นความช่วยเหลือในวันยากลำบาก พระองค์จะไม่ทรงปล่อยเราให้เผชิญเพียงลำพัง (สดด.121:1-8) เมื่อมีปัญหานั้น พระเจ้าสั่งเพียงให้เรา "นิ่ง" จงร้องทูลพระเจ้าจากที่คับแค้นใจของเรา แล้วพระองค์ทรงสัญญาว่าจะทรงประทานความโล่งใจแก่เรา (สดด.118:5) จงมอบภาระปัญหานั้นให้กับพระเจ้า และพระองค์จะทรงคำจุ้นเรา นำพาให้เราผ่านพ้นวันนี้ไปได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา (สดด.55:22)
ปัญหา ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลยสำหรับคนที่มีพระเจ้าอยู่ภายในจิตใจ แต่...มันจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวทันทีหากเราขาดความไว้วางใจในพระเจ้า ...!
เมื่อเราสู้สุดกำลัง แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย จงขอบพระคุณและมอบปัญหานั้นให้พระเจ้า พระเจ้าไม่ได้ทรงรังเกียจปัญหานั้น หรือดูถูกเราว่า "เพียงปัญหาแค่นี้ก็แก้ไขไม่ได้หรือ?" แต่พระเจ้าทรงเข้าใจเราทั้งหลายมากยิ่งกว่าเราเสียอีก และพระองค์จะทรงถือว่าปัญหานั้นเป็นของพระองค์เอง และจะทรงลุกขึ้นเพื่อเรา อย่าลืมพระเจ้าทรงเป็นพระบิดาที่บริสุทธิ์ ทรงฤทธานุภาพสูงสูดเพียงพระองค์เดียว (2พศด.20:6, 15-17)
"เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่ลูกของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะประทานสิ่งดีแก่พวกที่ขอต่อพระองค์" (มธ.7:11)
ปัญหาอาจจะรุมล้อมเราไว้ได้ทุกด้าน แต่ปัญหาไม่สามารถจะปิดกั้นสายพระเนตรของพระเจ้าที่เฝ้ามองเราได้ เพียงแต่เราจงแหงนหน้าขึ้น ชูมือต่อพระเจ้าผู้ประทับบนฟ้าสวรรค์ แทนที่จะนั่งจมปลักในความทุกข์ระทมใจ ซึ่งก็ไม่อาจจะช่วยให้เรารอดพ้นจากปัญหา หรือได้รับคำตอบใดๆได้เลย (สดด.141:2)
"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาข้าพระองค์ ขอทรงพระกรุณาข้าพระองค์
เพราะจิตใจของข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์ ข้าพระองค์จะลี้ภัยใต้ร่มปีกของพระองค์ จนกว่าภัยอันตรายจะผ่านพ้นไป
ข้าพเจ้าจะร้องทูลต่อพระเจ้าผู้สูงสุด ต่อพระเจ้าผู้ทรงทำการให้สำเร็จเพื่อข้าพเจ้า
พระองค์จะทรงส่งความช่วยเหลือมาจากฟ้าสวรรค์และช่วยข้าพเจ้าให้รอด พระองค์จะทรงให้ผู้เหยียบย่ำข้าพเจ้าอับอาย พระเจ้าจะทรงส่งความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ลงมา" (สดด.57:1-3)
ไม่จำเป็นต้องพยายามแสวงหาความช่วยเหลือหรือความเห็นใจ ความเข้าใจจากมนุษย์ แม้เขาจะฟัง แต่เขาอาจจะไม่เข้าใจหรือเห็นใจเราเลย (สดด.60:11-12, 146:3-4) ไม่จำเป็นต้องจมปลักอยู่กับการสงสารตนเอง และเรียกร้องความยุติธรรมจากมนุษย์ เพราะมนุษย์พิจารณาและตัดสินทุกสิ่งบนสิ่งที่เขาเห็น [หลักฐานที่เห็นได้จริง] แต่พระเจ้าทรงตัดสินและพิจารณาทุกสิ่งบนแรงจูงใจและท่าทีภายในจิตใจของเราเอง
ฉะนั้น แม้คุณจะพยายามอธิบายอย่างไร แล้วเค้าไม่เชื่อ จงอย่าถอดใจที่จะทำดี และจงวางใจในพระเจ้าต่อไป ว่าไม่นานพระองค์จะทรงเปิดเผยความจริงและคืนความยุติธรรมให้กับเรา (สดด.37:1-6) แม้จะนานสำหรับเราที่จะอดทนรอคอยได้ แต่พระองค์จะทรงเสริมกำลังให้เราอดทนรอคอยต่อไปได้ จงเชื่อเถิด เราจะได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าก่อนจะตายแน่ๆ จงฝากความหวังไว้กับพระเจ้า และเราจะเข้มแข็งและยืดหยัดต่อไปได้แน่ๆ (สดด.27:13)
"สวัสดิภาพและเกียรติของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้า ศิลาแข็งแกร่งและที่ลี้ภัยของข้าพเจ้าคือพระเจ้า
ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระเจ้าตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา" (สดด.62:7-8)
อย่าลืมพระเจ้าไม่เคยไม่ทรงรักษาสัญญา ทรงเคยบอกเราว่าจะทรงสถิตกับเราเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุคนั้น วันนี้ พระเจ้ายังทรงเป็นเช่นนั้น ไม่ได้ทรงอยู่ห่างไกลเราไปไหนเลย แต่ทรงอยู่ใกล้ๆเราเสมอ ทรงรู้ ทรงเห็นทุกสิ่งที่เราเป็น ทรงเข้าใจ...ในความอ่อนแอ และทรงคอยเสริมกำลังใหม่ให้เราเสมอ เพื่อทุกครั้งที่เราล้มลง พระหัตถ์ของพระองค์จะเหยียดออกและพยุงเราไว้ไม่ให้ล้มลงเหยียดยาว และจะทรงให้เรามีกำลังที่จะลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ (สดด.37:24, สภษ.24:16, มธ.28:20, 2คร.1:19-20, ยก.1:17, อสย.40:29-31)
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา