ทุกชีวิต ... มี 3 วันเท่านั้น คือ เมื่อวานนี้ [อดีต] วันนี้ [ปัจจุบัน] และพรุ่งนี้ [อนาคต]
เมื่อวานนี้ ... เป็นบทเรียน
วันนี้ ... เป็นของเรา
พรุ่งนี้ ... เป็นของพระเจ้า
"ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอิ่มความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้ร้องเพลงด้วยความชื่นบานและยินดีตลอดวันเวลาของพวกข้าพระองค์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายยินดีในมากวันเท่ากับที่พระองค์ได้ทรงให้พวกข้าพระองค์ทุกข์ยากนั้น และให้มากปีเท่ากับที่พวกข้าพระองค์ได้ประสบสิ่งร้าย" (สดด.90:14-15)
คนที่มีความสุขที่แท้จริง คือ คนที่ไม่ลืมอดีต แต่รู้จักใช้บทเรียนจากเมื่อวาน มาปรับปรุงแก้ไขวันนี้ให้ดีกว่าเดิม เพื่อที่พรุ่งนี้จะมีความหมาย และจะไม่ทำสิ่งผิดพลาดเหมือนเช่นเมื่อวันวาน
อย่าทำลายความสุขในวันนี้ โดยการเอาเรื่องราวเมื่อวันวานมาย่ำยีชีวิตในวันนี้
เพราะผู้ใดที่คิดจะติดตามพระคริสต์ เราต้องเรียนรู้ที่จะปฏิเสธตัวเอง ให้เวลาที่ผ่านมามันเพียงพอสำหรับอะไรๆที่งี่เง่า โง่เง่า ง่องแงง และงอแง เพื่อเราจะใช้ชีวิตที่เหลือนับจากนี้แต่ละวินาทีเพื่อพระเจ้า ... เพื่อจะทำดี และทำดีให้มากๆอย่างพระคริสต์ (ลก.14:26-27, 1ปต.4:3)
เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า "พรุ่งนี้" จะยังมีไหมสำหรับเรา ... เราอาจจะตายหรืออาจจะเป็นอยู่!
แม้ว่า ... เราจะเลือกเกิดหรือเลือกการเริ่มต้นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะจบลบอย่างไรได้ จะให้แบบ Happy Ending หรือ Sadly Ending ละ...? เราเองเป็นผู้เลือก...!
แต่ที่แน่ๆ คือ พระเจ้าทรงมีสิ่งดีเตรียมไว้ในเราเสมอ (สดด.32:19) ... ระวัง อย่าให้เหตุการณ์ในวันนี้มากำหนดชีวิตทั้งชีวิตของเรา!
ความทุกข์ในวันนี้ ... มันก็ส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่อแต่งเติมให้ชีวิตของเรามีสีสัน ฉะนั้น อย่ารีบด่วนสรุปอะไรเพียงเพราะบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... จงวางใจ
เพราะพระเจ้ามีแผนงานที่ดีสำหรับเรา เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ มิใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจที่ดีแก่เรา (ยรม.29:11)
ไม่มีใครสามารถจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้ แต่เราสามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ ... แล้วพรุ่งนี้จะอัศจรรย์สำหรับเราแน่นอน
หากทุกคนย้อนเวลาได้ ... การสำนึกผิดคงจะไม่มีความหมาย ดังนั้น ... ไม่มีความผิดไหน ที่พระเจ้าผู้เป็นความรักจะทรงให้อภัยไม่ได้ เมื่อทำผิด อย่าหลบ อย่าหนี ... จงกล้าพอที่จะเข้ามาหาพระเจ้า เพราะทรงรอจะให้อภัยเราอยู่เสมอ (อสย.55:7, ลก.7:40-47)
และเราจะมีหัวใจใหม่ ที่รักการ 'ให้' ที่ล้นมาจากหัวใจที่เต็มล้นด้วยความรัก เพราะภายในใจมีพระเจ้า และพระเจ้าทรงเป็นความรัก ... และพระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่า ;
"ถ้าใครจะปรนนิบัติเรา คนนั้นต้องตามเรามา และเราอยู่ที่ไหน ผู้ปรนนิบัติของเราจะอยู่ที่นั่นด้วย ถ้าใครปรนนิบัติเรา พระบิดาจะประทานเกียรติแก่ผู้นั้น" (ยน.12:26)
เพราะพระเจ้าทรงรักเรา ... ด้วยความรักมั่นคงนิรันดร์ และไม่เคยจะเปลี่ยนแปลง (ยรม.31:3)
พระเจ้าอวยพระพรครับ
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น