ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ เราวางใจ เรามั่นใจได้ว่าเราไม่เคยโดดเดี่ยว ไปเพียงลำพัง เพราะเราเชื่อว่า...พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเราเสมอ...!
ฉะนั้นในวันนี้ จงยิ้มด้วยความชื่นบาน เพราะเราเชื่อว่า ... "ผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา จะได้เก็บเกี่ยวด้วยเสียงโห่ร้องยินดี ผู้ที่ร้องไห้ออกไป โดยหอบเมล็ดพืชเพื่อจะหว่าน จะกลับบ้านด้วยเสียงโห่ร้องยินดี โดยหอบฟ่อนข้าวมาด้วย" (สดด.126:5-6)
นับจากวันแรกที่เราได้รู้จักพระองค์ จนกระทั่ง ณ วันนี้ เมื่อเราได้รักพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจ เราจะพบว่าสิ่งเดียวที่เราปรารถนาคือการได้พบและอยู่กับพระองค์เช่นมารีย์ที่นั่งแทบพระบาทพระเยซูคริสต์ เพื่อจะได้ฟังเสียงพระองค์ แล้วพระองค์จะตรัสว่า "สิ่งที่จำเป็นนั้นมีเพียงสิ่งเดียวและมารีย์ก็เลือกเอาส่วนดีนั้น ใครจะชิงเอาไปจากเธอไม่ได้" (ลก.10:42)
ใจที่ปรารถนาพระคริสต์เป็นการหลอมใจเราให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เป็นใจเดียวกันเพราะพระองค์ก็ทรงอยากพบเรา และอยากสามัคคีธรรมพูดคุยกับเราด้วยเช่นกัน
แล้วเราจะได้ยินเสียงของพระเจ้าว่า "เราปลดภาระจากบ่าของเขา เราให้มือของเขาพ้นจากการยกของหนัก เมื่อทุกข์ใจเจ้าเรียก เราก็ช่วยกู้เจ้า เราตอบเจ้าในที่ลับลี้ของฟ้าร้อง ..." (สดด.81:6-7)
อยากได้ยินเสียงแห่งความรักและความห่วงใยของพระเจ้า เพื่อเราจะมีความเชื่อพอที่จะละทุกความวิตกกังวลไว้ที่พระองค์ได้ ก็จงมีใจเดียวกันกับพระเจ้าที่จะเข้ามาพบพระองค์ ... อย่าให้ใจที่มัวแต่เสียดายสิ่งใดๆ นั้นมาขวางกั้นเรา หรือหน่วงเราไว้ไม่ให้ไปพบพระองค์ แล้วเราจะพบว่า "แม้ไม่เหลืออะไร หรือไม่มีใครเลยสักคนเคียงข้าง แต่เพียงแค่มีพระเจ้าองค์เดียวก็เพียงพอแล้วจริงๆ"
ฉะนั้นจงระวังอย่าให้เรื่องสำคัญใดๆของเรามาแย่งชิงเวลาในเรื่องที่สำคัญกว่า คือ การได้เข้ามาอยู่ในเวลาของพระเจ้าที่ทรงรักเราจริงๆ
สิ่งสำคัญมักเป็นอุปสรรคของสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอ
พระเจ้าอวยพระพรครับ
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น