วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ใจที่ไม่ยอมแพ้คือใจอย่างพระคริสต์เขาจะมองเห็นโอกาสในทุกวิกฤต

"กวางกระเสือกกระสนหาธารน้ำฉันใด ข้าแต่พระเจ้า จิตใจข้าพระองค์ก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น จิตใจข้าพระองค์กระหายหาพระเจ้า หาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ เมื่อไรข้าพระองค์จะได้มาเห็นพระพักตร์พระเจ้า?" (สดด.42:1-2)

พระเจ้าทรงสร้างเราอย่างตั้งใจ เราทั้งหลายล้วนเป็นผลงานแห่งฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า เพื่อให้เราได้ทำสิ่งดีตามพระดำริของพระองค์ (อฟ.2:10) แต่แรกเริ่มนั้นพระเจ้าสร้างเราให้บริสุทธิ์ ชอบธรรม (อฟ.1:4) และเป็นสิ่งเดียวที่ทรงสร้างด้วยการปั้นอย่างตั้งใจ มิใช่มาจากการเพียงแค่จินตนาการและตรัสเท่านั้น แต่เราเกิดมาพร้อมกับการปั้นที่ใส่พระทัยของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ (อสค.16:3-7) นี่ละ...ทำไมเราจึงเป็นที่รักยิ่งของพระองค์เสมอ!

ฉะนั้น...ในทุกๆรายละเอียดชีวิตของเรานั้น องค์พระผู้ปั้นทรงทราบเป็นอย่างดี ทรงเข้าใจดี ทรงรักเราด้วยความรักที่มั่นคงนิรันดร์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงจริงๆ
"มนุษย์เป็นผู้ใดเล่า ที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา? และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า ที่พระองค์ทรงห่วงใยเขา? พระองค์ทรงสร้างเขาให้ต่ำกว่าพระองค์แต่หน่อยเดียว และทรงสวมศักดิ์ศรีกับความมีอำนาจให้เขา พระองค์ทรงให้เขาปกครองผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เท้าเขา" (สดด.8:4-6)

เห็นไหมว่าเราเป็นบุคคลพิเศษ และล้ำค่าในสายพระเนตรเสมอ (อสย.43:4) ฉะนั้นไม่จำเป็นว่าเราจะเกิดมาสภาพอย่างไร จะพิกลพิการ หรือจะยากจนหรือมั่งมี จะกำพร้า หรือจะเคยผิดพลาดอะไรมาบ้างก็ตาม หรือจะอย่างไรไม่สำคัญ แต่สำคัญที่พระเจ้าทรงสร้างให้เราเกิดมาในสภาพเช่นนั้น แต่ไม่เคยให้สภาพการณ์เช่นนั้นมาลดคุณค่าของเราในการเป็น "คน" ที่พระเจ้าทรงรักลงได้เลย! (ยรม.31:3)

แม้เราอาจจะเกิดต่างกัน แต่พระคุณของพระเจ้าในชีวิตของเราแต่ละคนก็ได้รับเหมือนกัน (มธ.5:45) ฉะนั้น...จงขอบพระคุณที่เราได้เกิดมา เพราะเราเกิดมาอย่างมีศักดิ์ศรี และมีสิทธิอำนาจของการเป็นบุตรที่พระเจ้าทรงรัก (ลก.10:19) เรามีอิสระและเสรีภาพที่จะทำสิ่งสารพัดได้ ก็ขอให้เราได้สรรเสริญพระเจ้า เราเกิดมาในสภาพอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญที่เราได้ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างไร? เรามองเห็นพระพร และโอกาสที่พระเจ้าให้ผ่านปมด้อยของชีวิตเราเองอย่างไร? เราใช้มันเพื่อเป็นพระพรและหนุนใจคนอื่นหรือเราจมปลักและเฝ้าโทษโชคชะตาของตัวเอง พระเจ้าไม่เคยสร้างเรามาอย่างผิดพลาด แต่ทรงสร้างเรามาอย่าง...มีจุดประสงค์ที่ดี!
"พระยาห์เวห์ตรัสว่า 'เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับพวกเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า'" (ยรม.29:11)

แผนงานของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเรานั้นไม่เคยทำให้เราต้องล้มเหลว แต่ที่มันล้มเหลวเพราะเราไม่เข้าใจในน้ำพระทัยที่ดีของพระองค์ และเราไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ต่างหากละ! เรายอมให้บางอย่างบางเหตุการณ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันมารั้งชีวิตของเรา และยอมให้มันมีอิทธิพลเหนือชีวิตของเรา อย่าลืมว่า "พระเจ้าไม่ได้สร้างเราให้อยู่ใต้ปัญหา หากแต่ทรงสร้างเราให้อยู่ใต้พระคริสต์ และต่ำกว่าแต่พระเจ้าหน่อยเดียวเอง"

ปัญหาของชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่ว่า วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเรา แต่ปัญหาคือวันนี้เรายังวางใจพระเจ้าดีอยู่ไม่? เรายืนอยู่ตรงไหนกับพระเจ้า? ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะผ่านอะไรมา เราจะเคยล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จอย่างไร? ระลึกเสมอว่า "พระเจ้าทรงสนพระทัย 'วันนี้' ว่าเรายืนอยู่ตรงไหน...? ยืนใกล้พระเจ้า เราก็อยู่ห่างไกลจากปัญหา หากเรายืนอยู่ไกลจากพระเจ้า เราก็ยืนอยู่ใกล้ๆกับปัญหา" (สดด.118:5-18, รม.8:31)

นี้ละ...เสียงของพระเจ้าจึงสำคัญ และเสียงเรียกนั้นเพื่อเตือนเราให้ระลึกเสมอว่า "พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่" เสมอ ทรงเหมือนเดิมเสมอไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน (ฮบ.13:8) ฉะนั้นจงวางใจเท่านั้น เหมือนที่ดาวิดได้กล่าวว่า "...ขอตรัสกับจิตใจของข้าพระองค์ว่า 'เราเป็นความรอดของเจ้า'" (สดด.35:3)

และการทรงเรียกนั้นเพื่อให้เรากลับมาสู่พระเจ้าผู้เป็นแหล่งแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่พร้อมเสมอสำหรับเรา จงกลับใจและเข้ามาหาพระเจ้า จดจ่อฟังเสียงเรียกของพระเจ้าที่ตรัสในจิตใจของเราให้ดีๆ แล้วเราจะพบว่า...พระเจ้าทรงเฝ้ามองดูเราเสมอ และพระองค์ทรงระลึกถึงพระสัญญาของพระองค์เสมอว่า
"ถ้าประชากรของเรา ผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลงอธิษฐาน และแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสียจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย และบัดนี้ตาของเราจะลืมอยู่ และหูของเราจะฟังคำอธิษฐานซึ่งเขาทั้งหลายอธิษฐาน ณ สถานที่นี้" (2พศด.7:14-15)

สถานที่นี้...คือ สถานที่ๆเรามีความเชื่อและไว้วางใจ อย่าลืมสิ "มีคนเชื่อที่ไหน...หมายสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจะบังเกิดขึ้นที่นั้น!" (มก.16:16-17)

บางที...พระเจ้านำเราไปในที่ๆเราไม่อยากไป ในที่ๆกันดาร ในที่ๆเต็มด้วยปัญหามากมาย มิใช่เพื่อทำร้ายเราเลย แต่ทรงส่งเราไปที่นั้นเพื่อจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้เราเปลี่ยนแปลงที่นั้นใหม่้ ให้เป็นแผ่นดินของพระเจ้า หากคนที่มีความเชื่อยืนอยู่ ณ ที่ใด พระคริสต์ก็ทรงประทับ ณ ที่นั่นด้วย แล้วทีนี้...อะไรละที่จะเกิดขึ้น?(ยน.14:18)

สรรเสริญพระเจ้า...ขอให้พระสุรเสียงของพระเจ้านั้นนำเราเข้าไปใกล้พระองค์ เพื่อเราจะได้ยินและก้าวออกไปเพื่อทำสิ่งยิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้าและแทนพระองค์
"เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม" (อฟ.2:10)

เห็นไหม...เราช่างเป็นบุคคลที่ล้ำค่าจริงๆ และไม่มีอะไรจะมาลดคุณค่าชีวิตของเราลงได้เลย พระเจ้าทรงรักเราและเราก็ไป ณ ที่ใดๆกับความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อชีวิตของเรา จงให้ความรักที่พระเจ้ามีต่อเรานั้นเป็นสะพานนำคนรอบข้างได้เห็นพระเจ้าในตัวเรา เมื่อไรเขาเห็นพระเจ้า เขาก็จะเห็นความหวัง และเขาจะใช้ชีวิตใหม่มิใช่เพื่อตัวเขาเองอีกต่อไป แต่จะเพื่อพระเจ้า และเพื่อคนอื่นๆ จงใช้ปมด้อยของชีวิตที่พระเจ้าให้มาเป็นพระพร (ยน.12:26, 14:12-14) เพราะพระเจ้าทรงสร้างเราให้เป็นคนพิเศษเพียง 1 เดียวในโลกเท่านั้น เช่น นิก วูยิชิช

ฉะนั้น...สภาพร่างกาย หรือไม่ว่าเราจะเกิดมาอย่างไรมันไม่ได้กำหนดความล้มเหลวหรือความสำเร็จของชีวิต แต่ 'วันนี้' ของเราต่างหากละ...ที่กำหนดว่าจะล้มเหลวหรือสำเร็จ เพราะวันนี้อยู่ในมือเรา พรุ่งนี้อยู่ในพระหัตถ์พระเจ้า ใจที่ไม่ยอมแพ้คือใจอย่างพระคริสต์เขาจะมองเห็นโอกาสในทุกวิกฤต จิตใจเขาใหญ่ที่จะกล้าก้าวออกไปด้วยความเชื่อ เขาจึงได้รับพระพร พระคุณอย่างยิ่งใหญ่จากพระเจ้าเช่นเดียวกัน(ฟป.3:12-16)

คนที่เอาแต่โทษโชคชะตา พระเจ้า หรือเหตุการณ์ หรือโน้นนั้นนี้  ก็คือคนที่ไม่รู้คุณค่าของการเกิดมาเป็น "คน" อย่างแท้จริง หากเอาแต่โทษ พร่ำบ่นกับบางสิ่งบางอย่าง เมื่อไรละเราจะพบว่า เราเป็นบุคคลพิเศษเพียง 1 เดียวของพระเจ้า และเป็น 1 เดียวในโลกนี้ที่ไม่มีใครเหมือนอีกด้วย จงขอบพระคุณที่ยังมีลมหายใจดีกว่า และลุกขึ้นใช้ชีวิต 1 เดียวนี้ให้คุ้มซะ เพื่อที่ก่อนตายจะพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า "เรามีความภูมิใจอะไรที่เกิดมาเป็นคน ... และลูกหลานจะไม่อายที่จะพูดกับใครๆว่า 'ผมหรือฉัน คือลูกหลานของเขาหรือเธอคนนี้' อย่างภาคภูมิใจจริงๆ!"

Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น