วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เป็นธรรมดาที่คนทั่วไปมักจะเลือกยืนอยู่ข้างผู้ชนะมากกว่าผู้แพ

อ.เปาโล ในจดหมายที่ท่านเขียนถึงทิโมธีผู้รับใช้หนุ่มลูกแกะของท่านว่า
"ในการแก้คดีเบื้องต้นของข้าพเจ้านั้น ไม่มีใครอยู่เคียงข้างข้าพเจ้าสักคนเดียว พวกเขาทิ้งข้าพเจ้าไปหมด ขออย่าให้พวกเขาต้องรับโทษเลย อย่างไรก็ดีองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยืนอยู่ใกล้และประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า เพื่อว่าข่าวประเสริฐจะได้รับการประกาศออกไปอย่างเต็มที่ผ่านทางข้าพเจ้า และคนต่างชาติทั้งหมดจะได้ยิน แล้วข้าพเจ้าจะได้รับการช่วยให้รอดจากปากสิงโต" (2ทธ.4:16-17)

เป็นธรรมดาที่คนทั่วไปมักจะเลือกยืนอยู่ข้างผู้ชนะมากกว่าผู้แพ้ ... ฉะนั้นไม่แปลกที่เราอาจจะโดนทิ้งอย่างไม่ตั้งตัว หรือเหมือนไม่เหลือใครในขณะที่เราเองต้องการใครสักคนเคียงข้างก็ตาม เช่น อ.เปาโล ถูกคนที่รักและเคยติดตามท่าน...มาทอดทิ้งนั้น มันเจ็บปวดจริงๆ แต่ท่านไม่ได้เสียใจเลย เพราะท่านเลียนแบบพระคริสต์ผู้เป็นทั้งครูและพระเจ้าของท่าน ... อย่าลืมสิ อ.เปาโล ไม่เคยเห็นหน้าพระเยซูคริสต์แบบหน้าต่อหน้าเลยตลอด 33 ปีครึ่งที่พระเยซูทรงอยู่ในโลก แต่ท่านก็ยังหวังและเชื่อว่า ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหนๆพระเยซูคริสต์ก็ทรงอยู่ ณ ที่นั่น เพราะท่านมีความหวังใจในพระเจ้าเสมอว่า
"และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะโปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ ขอพระสิริมีแด่พระองค์สืบๆไปชั่วนิตย์นิรันดร์ อาเมน" (2ทธ.4:18)

แต่ผลลัพธ์สุดท้าย...ท่านก็ต้องถูกตัดสินประหารชีวิตอย่างทรมาน แต่แม้ว่าความยากลำบาก หรือความตายจะอยู่ตรงหน้า แต่...ท่านไม่ได้กลัวที่จะเผชิญสิ่งเหล่านั้นเลย
"เพราะว่าข้าพเจ้าถูกเทลงเหมือนดั่งเครื่องดื่มบูชาแล้ว และถึงเวลาที่ข้าพเจ้าจะต้องจากไป ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้วิ่งแข่งจนครบถ้วน ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว ตั้งแต่นี้ไปมงกุฏแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า..." (2ทธ.4:6-8)

ช่างน่าทึ่งจริงๆ สรรเสริญพระเจ้า ท่านจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า "เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร" (ฟป.1:21)

สรรเสริญพระเจ้า ในทุกความอ่อนแอ ท่านไม่เคยอาย เพราะท่านเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดจะพรากท่านออกจากความรักของพระเจ้าในชีวิตของท่านได้ (รม.8:35-39) ท่านอวดความอ่อนแอเพราะท่านเชื่อว่าพระคุณของพระเจ้ามีมากมายเพียงไรในชีวิตของท่าน (2คร.12:9-10)

วันนี้...ในความอ่อนแอของเรานั้นเพื่อให้พระเจ้าทรงฤทธิ์ในชีวิตของเรา หรือเราใช้ความอ่อนแอของเราเพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากใครบางคนอยู่ด้วยการบ่น การประชดประชัน หรือทำอะไรที่โง่ๆอย่างงี่เง่า แล้วมาเสียใจภายหลังและละอายในความโง่เขลาของตัวเองละ! บางที...ที่น่าเสียใจไม่ใช่เพราะความอ่อนแอของเราหรอกนะ หากแต่คือ 'ความโง่ ความงี่เง่า' ของเราที่ทำตัวเหมือนไม่รู้เลยว่า "ใครยืนอยู่ข้างๆเราเสมอ อย่างที่อ.เปาโลเชื่อ!" แม้โลกนี้ท่านจะได้รับความอยุติธรรมแทนความยุติธรรม แต่เพราะท่านมีความหวังกับบำเหน็จ ณ แผ่นดินของพระเจ้า เพราะท่านรู้ว่า...บำเหน็จของท่านอยู่ที่พระหัตถ์พระเจ้า และแผ่นดินโลกนี้ไม่คู่ควรกับท่านเลยจริงๆ (อสย.49:4, ฮบ.11:39-40)

ฉะนั้น ถามใจเราเองว่า วันนี้เรายังจะรักพระเจ้าและยังจะติดตามพระองค์ต่อไปไหม? แม้ว่าวันนี้เรากำลังเจ่อะเจอเรื่องร้ายแรงปานใดอยู่ก็ตาม ...! อย่าหวั่นไหว เพราะบางทีการทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าก็ยากที่ใครคนอื่นจะเข้าใจนะ! อดทนไว้ เพราะพระเจ้าทรงยืนอยู่ใกล้ๆเราเสมอ และพระหัตถ์พระเจ้าจะทรงช่วยกู้เราได้ทันเวลาแน่นอน และพระเจ้าทรงรู้กำลังของเราว่าจะทนได้แค่ไหน? (1คร.10:13, วว.3:8)

อย่าสงสัยจงวางใจในพระเจ้าเสมอ เมื่อเผชิญกับเรื่องร้ายแรงประการใด พระองค์จะทรงประทานทางออกให้เราเสมอ และความอ่อนแอมีที่ไหน ฤทธิ์ของพระเจ้าจะมีเดชเต็มขนาดที่นั่นแน่นอน ระวังอย่าจำกัดพระเจ้าด้วยความคิดที่จำกัดของเราในแผนการช่วยกู้ของพระองค์ จงเชื่อเท่านั้น ให้ทุกสิ่งสุดแต่น้ำพระทัยพระเจ้า แล้วเราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเสมอจริงๆ(อสย.55:8-9, ยน.11:40)

พระเจ้าอวยพรครับ
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น