"เขาทูลพระองค์ว่า 'ท่านอาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะกำลังล่วงประเวณีอยู่ ในธรรมบัญญัตินั้นโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างคนอย่างนี้ให้ตาย แล้วท่านจะว่าอย่างไร? ... แต่พระเยซูน้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดิน และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า 'ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก' ... แล้วพระเยซูตรัสว่า 'เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก'" (ยน.8:4-7, 11)
คนที่อยู่ในพระคริสต์ สิ่งสารพัดที่เก่าๆจะหลุดร่วงไป เปลี่ยนกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น (2คร.5:17) เพราะเขาเอาเนื้อหนังและความอยากตรึงไว้ที่กางเขน เขาตายแล้วต่อบาปแต่มีชีวิตใหม่อยู่เพื่อพระคริสต์ (กท.2:19-20) เขาเป็นคนที่อยู่ฝ่ายพระวิญญาณ สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ เขาจึงมีชีวิตและสันติสุข (รม.8:5-6) เขาผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นจิตวิญญาณเดียวกับพระองค์ (1คร.6:17) เขาจึงเป็นเนื้อเดียวกันกับพระองค์ และพระเจ้าจะทรงทำให้เขาเกิดผล และผลนั้นจะคงอยู่ (ยน.15:5, 16) ... มากกว่าการทรงสถิตอยู่ด้วย แต่การเป็นเนื้อเดียวกัน
เราเจ็บ ... พระองค์ทรงเจ็บกว่า เพราะเราเป็นดั่ง "แก้วพระเนตร" ของพระองค์ (ศคย.2:8) และทรงเรียกเราว่า "ที่รักยิ่ง" (รม.9:25) เขาจึงไม่หวั่นไหวต่ออะไรๆที่เกิดขึ้น เพราะใจเขารู้ดีว่า "พระเจ้าเป็นที่พักพิง" และ "ทรงเป็นที่พึ่งพิง" (สดด.112:7-8, สภษ.3:5-6) ... เขาจึง 'มีความรัก' แบ่งปันให้ทุกคน ให้อภัยได้กับทุกคน เพราะในใจเขามีพระเจ้า ผู้ทรงเป็นแหล่งความรัก ... โลกเห็นพระเจ้าในเราผ่านความรักที่เรามีให้คนมากมาย (1ยน.4:8, 11-12)
ขณะที่หลายคนที่มี 'ศาสนา' เขาจ้องจะตัดสินและลงโทษ ... เพราะเขามองเห็นสิ่งที่ตา [เนื้อหนัง] เห็นชัดเจนมากกว่าสิ่งที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา [ฝ่ายวิญญาณ] ... เห็นบาปที่เขาทำชัดเจน มากกว่าโอกาสที่จะสำแดงความรักผ่าน 'การให้อภัย' (ยน.20:23)
เรามีสิทธิ์จะเอาผิดคนที่ทำผิดได้ ... แต่หากเราเป็นลูกพระเจ้า มี DNA ของพระคริสต์ เราจะทำอย่างพระเยซูไหม? ... เราจะให้โอกาสเขาไหม? กล่าวอย่างพระองค์ไหม? ..."เราเองก็ไม่เอาผิดเจ้า กลับไปและอย่าทำผิดอีกนะ!" หรือเราเป็นคนมีศาสนาเราก็จะทำอย่างผู้นำศาสนาและคนเหล่านั้นที่จับหญิงที่ล่วงประเวณีทำละ ... คือ เอาผิด ตัดสิน กำจัดคนบาปให้หมดไป! เราเลือกจะทำแบบไหนละ? และแบบไหนละพระเยซูจะทรงชอบพระทัยมากกว่ากัน?
"เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ จงรักกันและกันให้มาก เพราะความรักให้อภัยบาปมากมายได้" (1ปต.4:8)
"ให้คนนั้นรู้เถิดว่าผู้ที่นำคนบาปกลับจากทางผิดของเขา จะช่วยวิญญาณจิตของคนบาปนั้นให้รอดจากความตาย และจะทำให้บาปมากมายได้รับการอภัย" (ยก.5:20)
อย่าลืมพระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคน [ทั้งคนบาปและคริสเตียน] และไม่ประสงค์ให้ใครสักคนพินาศไป (2ปต.3:9) แล้วเราละ เป็นลูกพระเจ้าใกล้ต้นไหม? จะทำอย่างพระองค์ คือ ให้โอกาสและใครอภัยคนอื่นๆเช่นพระองค์ไหม? ... เพราะเราไม่อยากให้ใครสักคนพินาศเลยไหม...?!
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น