ทุุกวันนี้ ... เมื่อไรที่รู้สึกท้อ จะนั่งลงทบทวนกับตัวเองว่า ..."โดยพระเจ้า เรามาไกลแค่ไหนแล้ว?" (พคค.3:19-24)
ทำไมต้องปล่อยแค่ 'ไม่กี่คน' กะ 'ไม่กี่เรื่อง' มาทำให้เราขุ่นเคือง ท้อแท้ในใจ จนลืม 'เป้าหมาย' และ 'อีกหลายคน'
ไม่สำคัญว่า เราจะทำอะไรได้ แต่จงเชื่อเถิดว่า "ในพระเจ้า เราสามารถทำทุกสิ่งได้แน่นอน" (ฟป.4:13)
เฉียดความตายมาก็หลายหน ... ยิ่งทำให้รู้ว่า "ทุกนาที ที่พระเจ้าทรงประทานให้นั้น ช่างมีความหมาย แล้ววันนี้เราทำอะไรดีๆเพื่อพระองค์ในโลกนี้ได้บ้าง?"
ไม่จำเป็นต้องเป็นคริสเตียนที่ดีตลอดเวลา แค่พยายามทำดีให้ตลอดเวลาเมื่อมีโอกาส (คส.4:5-6)
ไม่สำคัญว่า เราจะมีกี่คนที่รู้จัก แต่สำคัญที่ว่า เราอยู่เคียงข้างกี่คนในวันที่เขาทุกข์ใจ
จะมีเสื้อผ้าเย่อะขนาดไหน เต็มตู้หรือล้นตู้ ก็ไม่เท่าเราแบ่งปันเสื้อผ้าให้ใครในวันที่เขาหนาวเหน็บที่สุด
เพราะพระเจ้าทรงต้อนรับ และเตรียมสิ่งดีให้เราเสมอ เมื่อเรามีจิตใจเมตตาและแบ่งปัน (มธ.25:34-40)
อย่าเอาแต่เรียกร้องความรักหรือความสนใจจากคนรอบข้าง จนลืมสิ่งสำคัญที่สุด คือ การร้องเรียกพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ แล้วเราจะรู้ว่า เพียงแค่มีพระเจ้าเท่านั้น ก็เกินพอแล้วในชีวิตเรา (สดด.73:25)
ไม่สำคัญว่าเราจะมีความรู้อะไรมากมาย หรือมีกี่ใบปริญญา ... หรืออ่านพระคัมภีร์จบกี่รอบ หรือรู้เรื่องดีมากมาย ก็ไม่สำคัญเท่าว่า เราใช้สิ่งนั้นเพื่อเสริมสร้างความรักของเราต่อผู้อื่นให้มากขึ้น (อฟ.4:12-15)
จงใช้ใจที่จะรัก แต่จงใช้สมองที่จะคิดหาทางจะทำให้ความรักเป็นรูปธรรม แล้วใช้ร่างกายเพื่อการดีด้วยการรับใช้ให้ดีที่สุด เพื่อพระเจ้าจะทรงได้รับพระเกียรติผ่านชีวิตของเรา
ระวัง ... อย่าเป็นคริสเตียนหัวโต แต่ใจแคบ ... เพราะสุดท้าย สิ่งที่รั้งให้เรายังมีทุกสิ่ง คือ ความรัก มิใช่ความรู้ เพราะความรักย่อมผูกพันทุกสิ่งให้ถึงซึ่งความสมบูรณ์ (คส.3:14) ... จงหาโอกาสที่จะซาบซึ้งในความรักที่เกินกว่าความรู้ (อฟ.3:19)
เพราะผู้ที่รัก ... เขาก็รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก (1ยน.4:7-8)
และระวัง อย่าใช้เหตุผล 'เพราะรัก จึงควบคุมทุกสิ่ง' เพราะความรักมิใช่การได้ควบคุม หากแต่คือ การผูกพันให้ทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน
อย่าริกล้ากล่าวคำว่า 'รัก' กับใคร ถ้าหากยังไม่เคย 'อดทน' กับคนๆนั้น เพราะความรักเริ่มต้นที่ "อดทนนานและกระทำคุณให้..." (1คร.13:4)
และผู้ที่อดทนได้ถึงที่สุดเขาจะรอด และเขาจะได้ครอบครองร่วมกับพระเยซูคริสต์ (2ทธ.2:12)
Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น