เมื่อตอนที่นำเสนอเรื่อง...ขนมปังกะทิอบควันเทียน หรือ ไทยปัง001 ขนมปังกะทิอบควันเทียน ByTuksirinyapatT. เอาไว้ว่า...มีขนมปังสัญชาติไทยอีกตัวที่ตุ๊กมีความภูมิใจเสนอ คือ ไทยปังหนมครกกะทิ...ตัวนี้แหละค่ะ ขนมตัวนี้คลอดออกมาเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นี้เองค่ะ
แรงบันดาลใจของสูตรขนมตัวนี้...มันเกิดจากความสนุกและความท้าทายที่ได้ทดลองอะไรใหม่ๆ .... และแนวคิดที่ว่า ... ขนมและอาหารเป็นประวัติศาสตร์ของคน สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม และสังคม ของคนในแต่ละชาติในแต่ละยุคสมัย
ก็เลยอยากจะสร้างสรรค์ขนม...ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการกินอยู่ของคนในยุคสมัยนี้
อย่างไทปังหนมครกกะทิ.. บอกเลยว่า มันสื่อถึงวัฒนธรรมการกินอาหารเช้าที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทย... เมื่อสมัยที่ตุ๊กยังเป็นเด็กเล็กประมาณ 7-12 ขวบ ช่วงนั้นมีคนมาเปิดขายขนมครกที่ทางเข้าแพร่งสรรพศาสตร์ แถวๆหน้าสนพ.อักษรเจริญทัศน์ ซึ่งเป็นปากทางเข้าบ้านของตั่วโกว (คุณป้าใหญ่ ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตของพ่อและเลี้ยงตุ๊กมาตอนเด็กๆ) เวลาที่ไปหาท่านก็จะเห็นคนต่อแถวซื้อขนมครกกันยาวเหยียดเหมือนกับที่ต่อคิวกันซื้อโดนัท กับกินชาบูในปัจจุบัน ... เพราะตอนนั้นขนมครกก็เริ่มหากินยากแล้ว ...ตอนนั้นได้ยินผู้ใหญ่เขาพูดกันว่า...ใครขายขนมครกจะรวยเร็ว!!!
สมัยก่อนขนมหรืออาหารไม่ได้มีขายกันทุกชนิดดาดดื่นเหมือนสมัยนี้ พอใครเปิดขายอะไรมันก็ขายง่าย ยิ่งอร่อย ยิ่งมีชื่อเสียงรวดเร็ว... ขนมครกหน้าแพร่งฯก็เช่นกัน
ขนมครกเองก็มีวิวัฒนาการของสูตร... แต่ตุ๊กชอบสูตรโบราณที่กินมาตั้งแต่เด็ก คือผิวกรอบเวลาสุกใหม่และเนื้อด้านในนุ่มนิ่มหวานมันกะทิมีกลิ่นต้นหอม... อันนี้จะเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!!!
( เอาไว้โอกาสหน้าจะเอาขนมครกสูตรโบราณมาโชว์ )
ขนมครก...จึงเป็นขนมที่เป็นอาหารเช้า ครองใจคนไทย
ขนมปัง... อาหารเช้าของคนไทยในยุคเร่งรีบ... สมัยยุคนิค รัฐบาลน้าชาติ คนมีรถขับ ทุกบ้านที่พอมีจะกินต้องมีรถขับ จะเดินทางไปไหนต้องเผื่อเวลารถติดกันทีละชั่วโมง..สองสามชั่วโมง ....การจะไปตลาดแล้วรอแม่ค้าแคะขนมครกจึงเป็นไปได้ยากสำหรับคนในยุคนี้... ขนมปังเริ่มเข้ามามีบทบาท และมาคู่กับนมข้นหวาน...ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยากจะปฎิเสธความนุ่มและความหวานของขนมปังจิ้มนมข้นกินกับกาแฟร้อนๆในตอนเช้าได้
ขนมปัง จึงกลายเป็น อาหารเช้าหลัก กินทั้งแบบแซนวิชไส้ต่างๆ หรือแบบปิ้งย่างทานมเนย แยมและ จิ้มสังขยา แทนขนมครกอาหารเช้าดั้งเดิมของคนไทย ที่นับวันจะหายยากที่ทำแล้วอร่อยเหมือนกับที่กินตอนเด็กๆ....
ขนมปัง + ขนมครก จึงเป็นตัวสะท้อนวัฒนธรรมการกินอาหารเช้าของคนไทยเป็นอย่างดี จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์เมนู.... ไทยปังหนมครกกะทิ...
ขนมปังตัวนี้ตัวสูตรเป็นลูกผสมของขนม 3 ชนิด
คือ Crumpet , Muffin และขนมครก
ตัวขนมแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือตัวฐาน และหน้าขนม
ตัวฐาน เป็น ขนมที่รวมเอาสูตรและวิธีทำ ของ ครัมเป็ต และมัฟฟิน มารวมกัน
ตัวหน้าขนม เป็น ขนมครกแบบไทยๆ ที่เนื้อขนมเป็น แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และหัวกะทิ
เวลากิน เราจะได้เนื้อและรสสัมผัสของขนม 3 ชนิดนี้พร้อมๆกันเลยค่ะ ทำเก็บแช่ตู้เย็นเอาไว้อุ่นกินกับน้ำชากาแฟ ก็ฟินมาก... เข้ากันกับเครื่องดื่มร้อนๆสุดๆ
สูตรที่ทำในวันนี้..เราก็ใช้ Sourdough Starter อีกเช่นเคย เพราะมันช่วยเพิ่มสารอาหารโดยเฉพาะการบำรุงโลหิตและสมอง ซึ่งเหมาะกับผู้สูงอายุและเด็กอย่างมาก ....
สูตรไทยปังหนมครกกะทิ
ส่วนประกอบ :
แป้งขนมปัง 100 กรัม
แป้งเอนกประสงค์ 100 กรัม
Sourdough Starter 100 กรัม
( ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ...แต่ต้องเพิ่มยีสต์อีก 2 กรัม)
นมสด 180 และ 30 กรัม
น้ำตาลทราย 8 ชต.
ยีสต์ 2 กรัม
(หากไม่ใช้ Sourdough Starter ให้ใส่ยีสต์ 4 กรัม)
เบกกิ้งโซดา 1⁄2 ชช.
ไข่ไก่ เบอร์0 2 ฟอง
เนยเค็มละลาย 60 กรัม
กลิ่นบัตเตอร์มิลค์ 1 ชช.
หน้าขนม : ครกกะทิ (แบบที่ 1)
แป้งขนมครกสำเร็จรูปเอราวัณ 100 กรัม
(หรือ ใช้แป้งข้าวเจ้า ก็ได้)
กะทิอบควันเทียน 300 กรัม
เกลือ 1/2 ชช.
น้ำตาลทราย 4 ชต.
ต้นหอมซอย
วิธีทำ :
1. ผสมเกลือ และน้ำตาลลงในน้ำกะทิ คนให้ละลาย
2. ค่อยๆเทกะทิลงในแป้ง ทีละน้อย นวดไปเรื่อยจนเป็นก้อน แล้วจึงหยุดเทกะทิ... นวดแป้งไปประมาณ 10 -15 นาที แล้วค่อยๆเทกะทิที่เหลือจนหมด นวดจนแป้งละลายไม่เป็นเม็ด กรองด้วยกระชอน แล้วพักไว้ รอหยอดหน้าขนม... ก่อนจะหยอดต้องคนทุกครั้ง
หน้าขนม : ครกกะทิ (แบบโบราณ)
แป้งข้าวเจ้า 1 1/4 ถ้วย
ข้าวสวยสุก 3 ชต.
มะพร้าวขูด 3 ชต.
กะทิอบควันเทียน 1 3/4 ถ้วย
เกลือ 1/2 ชช.
น้ำตาลทราย 4 ชต.
ต้นหอมซอย
วิธีทำ :
ปั่นแป้ง ข้าวสวยสุก มะพร้าว น้ำกะทิ น้ำตาล เกลือ ด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ จนละเอียดเนียนดี แล้วพักไว้ 15 นาที ต้องคนก่อนที่จะหยอดหน้าขนม
..............................................
วิธีทำขนมไทยปังหนมครกกะทิ :
- เตรียมแป้งไว้หยอดหน้าขนม
- วอร์มเตา 200 C
1. อุ่นนม180 กรัมให้พออุ่น ใส่ยีสต์
น้ำตาลทราย และ Sourdough
ผสมให้เข้ากันดี
(ระวังอย่าให้นมร้อนเกิน ยีสต์จะตาย)
2. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์
นำส่วนแรกมาเทผสมทีละน้อย
ตีให้เข้ากัน จากนั้นแร็ปคลุม
หน้าแป้งไว้และนำไปไว้ในที่อุ่น
พักไว้เป็นเวลา 1ชั่วโมง
ให้ฟูขึ้นมาประมาณหนึ่งเท่าตัว
** มีผลต่อความนุ่มและการขึ้นฟู
3. นำไข่ เนย กลิ่นวนิลา ผสมกับ
เบกกิ้งโซดา นม 30 กรัม
แล้วนำมาผสมกับ
แป้งที่พักแล้ว ตีให้เข้ากัน
4. ทาเนยจืดที่พิมพ์มัฟฟินจิ๋วให้ทั่ว
เทส่วนผสมตัวขนมใส่พิมพ์ประมาณ 1/2
ของพิมพ์ ใส่หน้าขนมลงไป 1/3 โรยต้นหอม
คลุมฟลอยด์ปิดหน้าขนม
*** ต้องคนแป้งก่อนหยอดหน้าขนมทุกครั้ง
5. นำเข้าอบที่ไฟบนล่าง 200 C
นาน 5-7 นาที
ตัวนี้ได้โพสต์แจกสูตรไว้ที่หน้าเพจตัวเองในเฟสบุคเช่นเคย...ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ