วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

เจ็บเพราะหวังดี

เจ็บเพราะหวังดี ... มันช้ำ แต่พระเจ้าทรงมีแผนงานที่ดี ... หามันให้เจอแล้วจะพบว่า ... เราเป็นบุคคลที่พิเศษมากที่ได้รับโอกาสพิเศษๆแบบนี้ เป็นความจริงหรือเปล่า...กับประโยคนี้ เมื่อได้คิดใคร่ครวญ สาธุการพระเจ้า การได้รักใครสักคนไม่ต้องใช้ความพยายาม แต่การจะลืมใครสักคนต้องใช้ความพยายามทั้งชีวิตของเราเลยจริงๆ ฉะนั้น...แม้ใครบางคนอาจจะเคยเจ็บปวดเพราะความหวังดีกับใครสักคน แม้สิ่งที่เราทำทั้งหมดนั้นเพราะหวังดี แต่ผลที่ได้รับกับเป็นการเมินเฉย และเป็นคำพูดถากถางต่างๆ จนทำให้เราตรอมตรมในความเจ็บช้ำ ความเจ็บช้ำที่สุดในชีวิต และมนุษย์ต่างกลัวที่สุด ก็คือ "การถูกปฏิเสธ" เช่นเดียวกันที่จริงๆแล้วเราไม่ได้กลัวที่จะบอกรักคนที่เราแอบรัก หากแต่สิ่งที่เรากลัวคือการถูกปฏิเสธจากคนๆนั้นต่างหากละ! ในโลกนี้จึงมีเพียงสมหวัง และผิดหวังเท่านั้นที่วนเวียนอยู่ในชีวิตของเรา ความสมหวังก็เหมือนรางวัลชีวิต แต่ความผิดหวังคือบทเรียนล้ำค่าที่เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของเรา การดำเนินชีวิตในความสมหวังเป็นเรื่องง่าย แต่ต้องระวัง...เพราะบางทีเราอาจจะหลงลืมที่จะพึ่งพาพระเจ้า เช่น โยชูวาและชนชาติอิสราเอลที่กำลังเริงร่ากับความสมหวังในชัยชนะเหนือเมืองเยรีโคและเมืองอัย จนเขาลืมระวังและตกหลุมพรางของชาวกิเบโอนที่มาหลอกล้อให้อิสราเอลทำสัญญาที่จะไม่ทำลายพวกเขา และยอมให้พวกเขาอยู่ด้วย "ขนมปังของเรานี้ในวันที่เราออกมาหาพวกท่าน เราเอาออกจากบ้านเมื่อยังร้อนๆอยู่ เพื่อใช้เป็นอาหารรับประทานตามทาง แต่บัดนี้ ดูสิแห้งและราขึ้นแล้ว ถุงนี้เมื่อเราเติมเหล้าองุ่นก็ยังใหม่อยู่ แต่นี่แน่ะ มันขาดแล้ว เสื้อผ้าและรองเท้าของเราก็เก่า เพราะทางไกล" (ยชว.9:12-13) จงระวังตัวเองที่จะไม่ตัดสินใจทำสิ่งที่ผิดพลาดจากความสงสาร หลายๆครั้งที่เราเองก็ทำสิ่งที่ผิดพลาดเพราะสงสาร ความสงสารเป็นสิ่งดี เพราะเป็นท่าทีของคนมีจิตใจเมตตาอย่างพระคริสต์ แต่ระวังเราอาจจะต้องเสียใจภายหลังหากเราไม่คิดใคร่ครวญและอธิษฐานแสวงหาพระเจ้าเสียก่อน หลายๆครั้งเราทึกทักเองว่า...นี้น่าจะเป็นน้ำพระทัยพระเจ้าที่จะช่วยใครสักคนที่น่าสงสาร ใจที่สงสารจะทำให้การตัดสินใจของเราลดคุณภาพลง และจะทำให้เรารีบร้อน รุกรี้รุกรน ซึ่งนั้นไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้าเลย ไม่เช่นนั้นเราต้องมารับผิดชอบผลที่ตามมา "คนเหล่านั้นก็รับเสบียงของเขามา แต่ไม่ได้ทูลขอการแนะนำจากพระยาห์เวห์ และโยชูวาก็ทำสัญญาสันติภาพกับพวกเขา และทำพันธสัญญากับเขาให้ไว้ชีวิตพวกเขา และพวกผู้นำของชุมนุมชนก็สาบานต่อเขา" (ยชว.9:14-15) ผลที่ตามมาคือ พวกเขามารู้ภายหลังว่าถูกหลอก ทั้งๆที่พระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งสติปัญญา แต่พวกเขากลับโดนศัตรูหลอก "ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและการสั่งสอน" (สภษ.1:7) ที่พวกเขาโดนหลอกเพราะพวกเขาไม่ได้ยำเกรงพระเจ้า พวกเขาไม่ได้แสวงหาและอธิษฐานถามพระเจ้าก่อน พวกเขาใจอ่อนสงสารเพราะสิ่งที่มองเห็นด้วยตา ทั้งๆที่พระเจ้าทรงสอนว่า...: "แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับซามูเอลว่า 'อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา เพราะเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ทอดพระเนตรเหมือนที่มนุษย์ดู เพราะมนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระยาห์เวห์ทอดพระเนตรจิตใจ'" (1ซมอ.16:7) ระวัง...อย่าด่วนตัดสินสิ่งใดจากสิ่งที่มองเห็น หรือสิ่งที่ได้ยิน จงยำเกรงพระเจ้า อธิษฐานแสวงหาน้ำพระทัยให้ดีๆ ระวังอย่าด่วนช่วยใครเพราะความใจอ่อนเพราะไม่งั้นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาอาจจะทำให้เราต้องอ่อนใจ ตัดสินที่จะช่วยช้าไปอีกนิด บางทีพระเจ้าอาจจะทรงจัดเตรียมคำตอบแบบอื่น หรือคนอื่นที่ดีกว่าที่เราคิด หรือดีกว่าเราไว้เพื่อช่วยเขาแล้วก็เป็นได้ เพราะสิ่งที่เราคิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้กับคนที่รักพระนามพระองค์ (1คร.2:9) ฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไรถามพระเจ้าสักนิดแล้วเราจะไม่ผิดหวังเพราะความหวังดีของเราเอง พระเจ้าตรัสว่า "จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้า และจะบอกสิ่งยิ่งใหญ่ ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า" (ยรม.33:3) อย่าลืม พระเจ้าไม่ทรงมีความลับกับคนของพระองค์ และไม่มีสิ่งใดจะปิดซ่อนจากพระพักตร์พระเจ้าได้เลย ... เข้ามาถามพระเจ้าแม้อาจจะช้า แต่มันปลอดภัย ที่จะไม่ทำให้เราต้องเจ็บใจปวดกายในภายหลังแน่นอน (อมส.3:7) บางที...สิ่งสำคัญอาจจะไม่ใช่การช่วยเหลือที่เขาควรจะได้รับ หากแต่อาจจะเป็นบทเรียนชีวิตเพื่อจะทำให้เขาได้ยำเกรงพระเจ้ามากขึ้นก็เป็นได้ ระวัง...เพราะความใจอ่อนขี้สงสารของเราอาจจะเป็นสิ่งที่ขัดขวางแผนการสั่งสอนของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเขาอยู่ก็เป็นได้ หากเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงทันเวลาเสมอ ก็จงมั่นใจว่าพระเจ้าจะไม่ทรงปล่อยให้คนของพระองค์ต้องตาย หรือแม้ว่าเขาตายแล้วหากเขายังวางใจพระองค์จะทรงทำให้กลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกไม่ใช่หรือ? (ยน.11:25-26) ก่อนจะตัดสินทำสิ่งใดลงไป พระเจ้าไม่บังคับเรา แต่พระองค์ทรงมอบสิทธิ์นั้นให้เราเป็นผู้เลือก แต่ขอเราต้องยอมรับผลที่มันจะตามมาให้ดีๆ หลายๆครั้งในเวลานี้ที่เราเจ็บปวดในหัวใจอยู่ อาจเพราะความใจร้อนในการตัดสินใจอยากจะช่วยเหลือใครบางคนเพราะสงสาร และคิดว่านี้เป็นความหวังดีที่เราทำให้กับเขา แต่ระวังมันอาจจะไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าที่ประสงค์ให้เราทำก็เป็นได้ นี้ละ... ทำให้บางคนตอนนี้...จึงก้มหน้าก้มตาผ่อนหนี้ หรือผ่อนกุญแจรถโดยที่ตนเองก็ไม่ได้แตะเลย ระวัง...: "อย่าเป็นคนในจำพวกที่ให้คำปฏิญาณ หรือในจำพวกผู้ค้ำประกันหนี้สิน" (สภษ.22:26) เพราะหากสิ่งใดเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าจริงๆ จะเต็มไปด้วยสันติสุข ไม่เป็นเหตุให้ใครต้องเจ็บปวดในภายหลัง บางทีส่วนใหญ่ความทุกข์ใจเกิดขึ้นเพราะเรามักจะทำอะไรที่เกินตัว เกินไป ทั้งๆที่พระเจ้าสร้างเรามาอย่างจำกัด เพื่อให้เราทำทุกสิ่งแค่เต็มที่...ก็พอแล้ว! Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น