วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สิ่งร้ายกาจคือความคิดลบ

"พวกศัตรูกล่าวไม่ดีถึงข้าพเจ้าว่า 'เมื่อไรเขาจะตายนะ ชื่อของเขาจะได้สูญไป' เมื่อคนใดมาเห็นข้าพเจ้า เขาก็พูดเท็จ ขณะที่ใจของเขาเก็บเรื่องร้าย เมื่อเขาออกไป เขาก็ป่าวร้องไป ทุกคนที่เกลียดข้าพเจ้า ก็ซุบซิบกันถึงเรื่องข้าพเจ้า พวกเขาปองร้ายข้าพเจ้า"
(สดด.41:5-7)

สิ่งที่น่ากลัวกว่าอาวุธใดๆ มากกว่าปรมาณูนิวเคลียร์ใดๆ ก็คือ 'ความคิด' ของค-น

หลายครั้งที่บุคคลที่ได้ชื่อว่า 'ผู้เชื่อ' ในพระเจ้า หรือแม้แต่ 'ผู้รับใช้' ที่อาจจะมีความคิดเช่นนี้ ... เมื่อไรที่เราใช้ความ 'พอใจ' ส่วนตัวตัดสินพี่น้อง เมื่อเราพบสิ่งที่ไม่พอใจในตัวพี่น้อง แทนที่จะมองให้เป็น 'โอกาส' ที่จะได้ 'รัก' มากขึ้น กับกลายเป็น 'โอกาส' ที่จะใช้ 'ความรู้' ที่รู้มาตัดสินพี่น้อง

"...คือให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ" (ยก.1:19) "...'จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง' พวกท่านก็ทำดี แต่ถ้าพวกท่านลำเอียง ท่านก็ทำบาป และถูกตัดสินว่าเป็นผู้ละเมิดธรรมบัญญัติ" (ยก.2:8-9)

หน้าที่ 'การตัดสิน' เป็นงานของพระเจ้า ... แต่หน้าที่ 'การให้อภัย' เป็นงานของเรา
'การแก้แค้น' เป็นงานของพระเจ้า ... แต่การ 'ยกโทษ' เป็นงานของเรา (รม.12:19-20)

"ถ้าพวกท่านจะอภัยบาปของใคร บาปของพวกเขาก็จะได้รับการอภัย ถ้าท่านไม่อภัยบาปของใคร บาปของพวกเขาก็จะไม่ได้รับการอภัย" (ยน.20:23) สิ่งเดียวที่จะทำให้พระวิญญาณฯทรงเสียพระทัย คือ การเก็บความเอาทรงจำที่เจ็บปวดไว้ และไม่ยอมให้อภัย (อฟ.4:30-31) "...และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย" (คส.3:13)

ทำไม ... เราให้อภัยไม่ได้ เพราะว่า เรากำลังเรียกร้องความเป็นธรรมจากโลก นั้นแสดงว่าเรากำลังสงสัยความยุติธรรมของพระเจ้า และกำลังจดจ่อที่บาดแผลที่ได้รับเพราะเค้าคนนั้นมากไป จงคิดใหม่ว่า "เราเจ็บ เพื่อจะหายดีจากโรคบาป" ต่างหากละ!

อาจจะมีหลายคนอยากจะ 'กำจัด' เราไปให้พ้นทาง พอๆกับเราเองก็อาจจะทำเช่นนั้นกับใครบางคน ... เรา Block Facebook ลบ Line หรืออะไรๆที่เราทำได้ เรามีสิทธิ์ที่จะทำเพราะมันแค่ปลายนิ้วเราเท่านั้น ... แต่เราไม่อาจจะลบเค้าไปจากความทรงจำจากใจเราได้ ... การให้อภัย คือ การไม่ยอมให้คนใน 'ความทรงจำ' มาเหยียบย่ำทำลายความสุขของชีวิตใน 'ปัจจุบัน' ของเราเอง

เรื่องการแก้แค้น และการอยากเอาชนะ เป็นเรื่องของเด็กๆ เขาทำกัน
แต่เรื่องการให้อภัย ... และสร้างสันติ อยู่อย่างสงบสุขกับทุกคนได้เป็นสิ่งที่คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาทำกัน

คุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า คือ 'จงรักศัตรู' และมิใช่เพียงแค่รัก และยังต้องทำดีตอบแทนสิ่งชั่วที่เขาทำต่อเราด้วย (มธ.5:43-48) เรามิได้เกิดมาเป็น 'ตัวปัญหา' ของใคร แต่หากใครจะมองเราเป็น 'ตัวปัญหา' ก็จงปล่อยให้เขาคิดไป ... พอๆกับที่เราห้ามนกบินข้ามหัวเราไม่ได้ แต่เราห้ามมิให้มันมาทำรังบนหัวเราได้ เช่นกัน เราไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ แต่เราสามารถไม่ให้สิ่งที่เขาคิด พูด หรือทำต่อเรามารกหัวเราได้ ... !

จงชื่นใจ อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ (รม.12:21) "จงวางใจในพระยาห์เวห์ และจงทำความดี... อย่าฉุนเฉียวเพราะคนทำชั่ว อย่าอิจฉาคนทำผิด" (สดด.37:3,1) ใครจะซุบซิบนินทาเราอย่างไร ก็ช่างเขา ... ห้ามเขาไม่ได้หรอก จงบังคับห้ามใจตัวเอง อย่าไปตอบโต้ ... แต่จงตอบสนองอย่างคนมีพระเจ้า และมีปัญญาเขาทำกัน

"ส่วนข้าเอง ข้าจะแสวงหาพระเจ้า และข้าจะมอบเรื่องของข้าไว้กับพระเจ้า" (โยบ 5:8) ทำใจ ... เพราะไม่มีเรื่องดีในวง 'ซุบซิบนินทา' หรอก และไม่มีใครจะไม่เคยโดน! จงเข้มแข็งและทำดีต่อไป ... เพราะอะไรละที่จะชอบอยู่กับเรื่องเน่าๆ นอกจากพวก 'ฝูงนกแร้ง' (มธ.24:28) แต่เราเป็น 'นกอินทรี' และ 'นกพิราบ' ของพระเจ้า เราชอบอยู่กับสิ่งดี สิ่งสวยงาม ... เพราะความรักคือการเชื่อในส่วนดีของกันและกันเสมอ มีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่างได้ มิใช่หรือ? (1คร.13:4-7)

จงให้อภัย ... ยกโทษ เพราะนั้นละ จะทำให้เราเป็นเหมือนพระเจ้ามากยิ่งขึ้น แต่หากเราโกรธ ฉุนเฉียว เราก็จะเป็นเหมือนมารมากขึ้น จะเป็นเหมือนพระเจ้า หรือจะเป็นมาร ... เรามีโอกาสได้เลือกจะเป็นได้เพียงโอกาสนี้เท่านั้นนะ ... จำไว้!!!

Ps.เนตรศักดิ์  ใสรังกา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น